วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เหี่ยวยก"ฮอนดะ"แข้งยอดเยี่ยมบอล โลก

เหี่ยวยก"ฮอนดะ"แข้งยอดเยี่ยมบอล โลก

เคซุเกะ ฮอนดะจอมทัพทีมชาติญี่ปุ่นตัวแทบลอยออกนอกโลกหลังอาร์แซน เวนเกอร์บรมครูของวงการลูกหนังออกมายกให้เป็น"อัจฉริยะ"และเป็นดาวดังแห่ง ฟุตบอลโลกหนนี้มิดฟิลด์ทีมชาติญี่ปุ่นโชว์ฟอร์มเข้าตาสุดๆในฟุตบอลโลกหนนี้โดยเฉพาะลูกยิง ฟรีคิกว่า 35 หลารวมทั้งเป็นคนยิงประตูชัยดับแคเมอรูนในนัดเปิดสนามอีกด้วย

ฮอนดะในวัย 24 ปีสามารถเล่นตำแหน่งกองหน้าหรือริมเส้นได้อย่างไม่เขอะเขินและถือเป็นสมบัติ ล้ำค่าของซีเอสเคเอ มอสโกว์ที่คว้ามาจากวีวีวี เวนโล่เมื่อปีเดือนธันวาคมปีที่แล้วด้วยค่าตัวถึง 5 ล้านปอนด์

ว่ากันว่าเวนเกอร์เคยเกือบได้ตัวฮอนดะเช่นเดียวกันสเปอร์ส,อาหยักซ์,พีเอสวี และทเวนเต้แต่ตอนนี้บาร์เซโลน่าล็อกเป้าให้ความสนใจเช่นกัน

"ทีมญี่ปุ่นทีมนี้มีฐานที่แข็งแกร่งและแนวรับที่เล่นเป็นปึกแผ่นซึ่งทุกๆคน รู้หน้าที่ของตัวเองดี"เวนเกอร์กล่าว

"เมื่อพวกเขาได้บอลก็สามารถส่งให้ฮอนดะและความมหัศจรรย์ก็เริ่มต้นขึ้น"

"เมื่อพวกเขามีอัจฉริยะอย่างฮอนดะในแดนหน้า เขาก็แสดงถึงความเป็นนักเตะระดับโลกออกมาให้เห็น สำหรับผมแล้วเขาเป็นนักเตะที่เล่นได้ดีที่สุดในฟุตบอลโลกจนถึง ณ ตอนนี้"

โคตรซึ้ง!แข้งโสมแดงถูกส่งไปทำงาน ถ่านหิน

โคตรซึ้ง!แข้งโสมแดงถูกส่งไปทำงาน ถ่านหิน

นักเตะเกาหลีเหนือโคตรซวยหลังมีข่าวอาจถูกประธานาธิบดีคิม จอง อิลส่งไปทำงานที่เหมืองถ่านหินโทษฐานทำขายขี้หน้าแพ้โปรตุเกสเละเทะ 7-0

ภายหลังพ่ายบราซิลในนัดเปิดสนามท่ามกลางเสียงชื่นชมทำให้เกาหลีเหนือรีบถ่าย ทอดสดให้ประชาชนได้รับชมเกมพบโปรตุเกสแต่กลับพ่ายชนิดสู้ไมได้ถึง 7-0

ว่ากันว่าคิม จอง อิลประธานธิบดีถึงกับรับไม่ได้และสั่งลงโทษนักเตะทุกคนไปทำงานที่เหมืองถ่าน หินทันทีที่เดินทางกลับถึงบ้าน

มูน คิ นัมอดีตนักเตะเกาหลีเหนือที่หนีนรกไปอยู่เกาหลีใต้เมื่อปี 2004 แฉว่า

"นักเตะและโค้ชได้รับการตบรางวัลเป็นบ้านหลังใหญ่หากพวกเขาชนะ"

"แต่พวกเขาต้องรับโทษหากพ่ายแพ้ด้วยการไปทำงานที่เหมืองถ่านหิน"

หลังสิ้นสุดเกมพ่ายโปรตุเกส 7-0 นักเตะเดินหน้าหงอยขึ้นรถบัสมีเพียงคิม ยอง ฮันโค้ชที่ยอมพูดกับสื่อสั้นๆว่า

"เราไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ผมอยากขอโทษต่อประชาชนของเราด้วย ผมไม่คิดว่าเราจะถูกลงโทษอะไรหรอกนะ"

เบ็คส์รับบทกาวใจหลัง"หัวขิง"เจ ที"ไม่กินเส้น

เบ็คส์รับบทกาวใจหลัง"หัวขิง"เจ ที"ไม่กินเส้น



เรื่องราวสุดฉาวมาเป็นระลอกล่าสุด"เจ้าพ่อลูกนิ่ง"เดวิด เบ็คแฮมรับบทกาวใจไกล่เกลี่ยสตีเฟ่น เจอร์ราร์ดกับจอห์น เทอร์รี่ที่ทำสงครามเย็นในแคมป์ทีมชาติอังกฤษระหว่างศึกฟุตบอลโลกที่ผ่านมา

หลายฝ่ายเชื่อว่าแคมป์"สิงโตคำราม"แบ่งออกเป็นสองขั้วคือฝั่งเจอร์ราร์ดและ เจมี่ คาร์ราเกอร์กับทางจอห์น เทอร์รี่และกลุ่มเพื่อน

"หัวขิง"กับ"เอ๋อ"ไม่ค่อยสบอารมณ์"เจที"ที่ออกมาพูดถึงปัญหาภายในทีมแถมยัง พยายามเป็นคนจัดแจงเรียกนักเตะมารวมกลุ่มหลังเอาชนะสโลเวเนีย

สิ่งเหล่านี้เป็นการทำข้ามหน้าข้ามตาเจอร์ราร์ดกัปตันทีมตัวจริงที่ได้รับ มอบหมายโดยฟาบิโอ คาเปลโล่

อย่างไรก็ตามว่ากันว่าเบ็คแฮมเข้ามาเป็นตัวไกล่เกลี่ยไม่ให้เรื่องลุกลามมาก ไปกว่านี้

"มีความไม่ลงรอยกันระหว่างสตีวี่จีและเจทีซึ่งจะปล่อยไว้แบบนี้ไม่ได้"แหล่ง ข่าวในแคมป์อังกฤษแฉ

"ดังนั้นเบ็คส์เลยเข้ามาเป็นตัวไกล่เกลี่ย เขาได้คุยกับทั้งคู่และหาข้อยุติ"

"เขาช่วยเคลียร์เรื่องทั้งคู่ให้ เขาได้คุยกับทั้งสองคนและมันก็ได้ข้อยุติ"

"เขาช่วยไม่ให้เรื่องนี้ลุกลามไปมากกว่านี้แต่ใครจะรู้ล่ะว่าตอนนี้มันจะ ลุกลามขึ้นอีกเมื่อเราตกรอบฟุตบอลโลกแล้ว"

วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ตามคาด!ฟีฟ่าส่งสองเปากากกลับบ้าน

ตามคาด!ฟีฟ่าส่งสองเปากากกลับบ้าน



ไม่เป็นที่แปลกใจใดๆหลังฟีฟ่าส่งโรแบร์โต้ โรเซ็ตติและจอร์เก้ ลาร์ริออนด้าสองผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่ผิดพลาดเกิดให้อภัยในรอบ 16 ทีมสุดท้ายกลับบ้านเรียบร้อยแล้ว

ลาร์ริออนด้าชาวอุรุกวัยปล่อยให้ลูกยิงข้ามเส้นของแฟร็งค์ แลมพาร์ดไม่ได้ประตูก่อนอังกฤษแพ้เยอรมัน 4-1 ในขณะที่โรเซ็ตติให้ลูกโขกจ่อๆของคาร์ลอส เตเบซที่วิ่งมาจากตำแหน่งล้ำหน้าเป็นลูกได้ประตูในเกมที่อาร์เจนติน่าโซ้ย เม็กซิโก

ฟีฟ่าไม่ได้ให้เหตุผลใดๆนอกจากประกาศรายชื่อในรอบ 8 ทีมสุดท้ายไม่มีสองสิงห์เชิร์ตดำผู้นี้

ส่วนอีก 2 หน่อที่โดนถีบส่งเป็นโคมัน คูลิบาลีของมาลีที่ไม่ให้ประตูสหรัฐอเมริกาจังหวะที่ยิงประตูท้ายเกมนัดพบ สโลเวเนียก่อนเสมอ 2-2 และอีกรายเป็นสเตฟาน ลานนอยของฝรั่งเศสที่ไล่กาก้าออกหลังเสียรู้ถูกคาเดอร์ กิอิต้าตบตาในนัดชนะไอเวอรี่โคสต์

กระหึ่ม!เรือคว้าซิลบาร่วมทัพ 24 ล้านป.

กระหึ่ม!เรือคว้าซิลบาร่วมทัพ 24 ล้านป.

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้ถลุงเงินสมใจหลังเซ็นสัญญาคว้าดาวิด ซิลบาปีกหน้าหนูมาจากบาเลนเซียด้วยค่าตัวโลกขย่ม 24 ล้านปอนด์เรียบร้อยแล้ว

ปีกทีมชาติสเปนเซ็นสัญญากับ"เรือใบ"ทั้งสิ้น 5 ปีและเป็นนักเตะแข้งเวิร์ลด คัพคนใหม่รายที่สองของโรแบร์โต้ มันชินีต่อจากเจโรม บัวเต็งของฮัมบวร์กที่ได้มาก่อนแล้วในราคา 10 ล้านปอนด์

ซิลบาเหลือเพียงแค่ตรวจร่างกายหลังติดภาระกิจที่แอฟริกาใต้ดังนั้นหากไม่ขา หักหรือแขนขาดดาวเตะวัย 24 ปีเป็นนักเตะของแมนเชสเตอร์ ซิตี้แน่นอนแล้ว

แข้งบาเลนเซียจะเซ็นสัญญาทันทีที่จบฟุตบอลโลกได้กล่าวอำลาทีมรักและพร้อม เติมเต็มความท้าทายใหม่แล้ว

"ผมสนุกกับ 6 ปีกับบาเลนเซียมาก,พวกเขาเป็นคนค้นพบพบและจะเป็นสโมสรที่พิเศษสำหรับผมตลอด ไป"

"นี่คือช่วงเวลาอันเหมาะสมที่ผมจะได้ควานหาความท้าทายใหม่และผมระทึกกับการ เล่นในอังกฤษกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้มาก"

"ผมเชื่อว่าพรีเมียร์ลีกเป็นหนึ่งในรายการที่ดีที่สุดในโลกและผมอยากนำความ สำเร็จมายังซิตี้และคว้าแชมป์ให้พวกเขา"

"ผมอยากบอกว่าผมเคยหวังมาเล่นให้แมนเชสเตอร์ ซิตี้อยู่เสมอและผมตื่นเต้นกับอนาคตของผมกับที่นี่"

"พวกเขาเป็นสโมสรที่มีอนาคตสดใสกับเหล่านักเตะฝีเท้าเยี่ยม ผมอยากเป็นนักเตะคนสำคัญในประวัติศาสตร์แมนเชสเตอร์ ซิตี้"

"มีข่าวลือเกี่ยวกับตัวผมทั้งกับสื่ออังกฤษและสเปนมาตลอด ผมจำเป็นต้องมีสมาธิกับการเล่นให้สเปนในฟุตบอลโลกอย่างเต็มที่"

"นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมที่ปรึกษาผมถึงเป็นคนจัดการเรื่องนี้กับทางซิตี้แทน ผมเพื่อที่ว่าผมจะได้มุ่งมั่นกับแค่ในแอฟริกาใต้เพียงอย่างเดียวและเล่นให้ ทีมชาติได้ดีๆ"

ในขณะที่โรแบร์โต้ มันชินี่บิ๊กบอส"เรือใบ"ขานรับกับลูกทีมใหม่โดยมีเป้าหมายคือลุ้นแชมป์ พรีเมียร์ลีกและไปลุยแชมเปี้ยนส์ลีก

"ผมคิดว่าดาวิด ซิลบาเป็นหนึ่งในมิดฟิลด์ที่เก่งที่สุดในยุโรปและผมหวังว่าเขาจะเป็นนักเตะ คนสำคัญของแมนเชสเตอร์ ซิตี้"

"ผมดีใจเหลือเกินที่เขากำลังมาเล่นให้เรา ผมคิดว่าเขาสามารถทำผลงานได้สุดยอดกับซิตี้แน่นอน"

"กับการเซ็นสัญญากับดาวิด เรากำลังแสดงให้โลกเห็นว่าเรากำลังดึงนักเตะเก่งๆมาที่นี่และเราหวังว่าจะ ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกในซีซั่นนี้ได้"

"เมื่อเหล่านักเตะเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับซิตี้และความทะเยอทะยานทั้งหลาย เหล่านี้พวกเขาก็อยากมาเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างทีมครั้งนี้"

"ผมหวังว่าเขาจะเล่นให้ทีมชาติสเปนในฟุตบอลโลกได้ดีๆและมาร่วมปรีซีซั่นกับ เราและพร้อมลุยพรีเมียร์ลีก ผมตื่นเต้นที่จะได้เห็นเขามาเล่นให้ซิตี้เอามากๆ"

เซ็งจัด!โด้จิ๋วทำ สกปรกถุยน้ำลายใส่กล้องทีวี

เซ็งจัด!โด้จิ๋วทำ สกปรกถุยน้ำลายใส่กล้องทีวี

ท่าทางจะหัวเสียหนักสำหรับคริสเตียโน่ โรนัลโด้กัปตันทีมชาติโปรตุเกส ที่ดันไปฟิวส์ขาดถุยน้ำลายใส่กล้องทีวี หลังจาก ‘ฝอยทอง’ กระเด็นตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายของฟุตบอลโลก

สตาร์ดังของเรอัล มาดริดระงับอารมณ์ไม่อยู่ หลังจากที่ช่างกล้องพยายามจะตามจี้เข้าไปถ่ายเขา ในตอนที่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขันแล้ว

โรนัลโด้มีค่ำคืนที่ไม่ดีเท่าไร เพราะนอกจากทีมจะแพ้แล้ว ตัวเขาเองก็แทบจะหายไปจากเกมเลยทีเดียว

โรนัลโด้ไม่สบอารมณ์อย่างแรง หลังจากที่พ่ายให้กับสเปนไป 1-0 และปฏิเสธที่จะตอบคำถามใด ๆ นอกจากการชี้นิ้วไปที่คาร์ลอส กีรอซกุนซือของทีม แล้วพูดเพียงว่า “อยากรู้อะไรก็ไปถามคาร์ลอส กีรอสซะนะ”

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

บีญ่ายิงปลิดวิญญาณฝอยทอง 10 ตัวส่อตัดเชือก

บีญ่ายิงปลิดวิญญาณฝอยทอง 10 ตัวส่อตัดเชือก

โปรตุเกสยุคอุดแหลกอั้นไม่อยู่เจอทีเด็ดดาวิด บีญ่าหอกเพนียงซัดประตูเดียวของเกมเบียดเฮ 1-0 แถมมีรอยด่างเมื่อริคาร์โด้ คอสต้าถูกใบแดงท้ายเกมส่งสเปนเจอปารากวัยเส้นทางสู่รอบตัดเชือกสดใส

ฟุตบอลโลก 2010 รอบ 16 ทีมสุดท้าย

วันอังคารที่ 29 มิถุนายน 2553


สเปน 1 - 0 โปรตุเกส

ประตู :
1-0 ดาวิด บีญ่า น.63

'กระทิงดุ' สเปนมาด้วยขุมกำลังเต็มสูบ ใช้แผน 4-3-3 ตอร์เรสยืนหน้าเป้าโดยมีบีญ่าคอยสลับเข้าโจมตีจากด้านข้าง แดนกลางมากันครบไม่ว่าจะเป็นอลอนโซ่, ชาบี้, บุสเกตส์ และอิเนสต้า

ขณะที่ทางด้าน 'ฝอยทอง' โปรตุเกสมาในแผน 4-3-3 เช่นกัน มีคริสเตียโน่ โรนัลโด้กัปตันทีมนำทัพ ใช้หน้าเป้าเป็นอัลเมด้า ในขณะที่ปีกอีกข้างเป็นซิเมา ซาโบรซ่าคอยป่วนแนวรับของฝ่ายตรงข้าม

พบกัน 32 ครั้งหลังสุด โปรตุเกสเอาชนะสเปนไปได้แค่ 5 ครั้งเท่านั้น

ครึ่งแรก

ตอร์เรสได้ ลองส่อง
เริ่มเกมมาได้แค่นาทีเดียว เฟร์นานโด ตอร์เรสก็ได้ลุ้นประตูก่อนใครเพื่อน จากจังหวะที่ลากบอลหนีกองหลังโปรตุเกสทางด้านซ้าย ก่อนที่จะปั่นด้วยขวาบอลพุ่งโค้งไปเสาสอง แต่เอดูอาร์โด้พุ่งไปปัดเอาไว้ได้ทัน

เอดูอาร์โด้ งานเข้าต่อเนื่อง
นาทีที่ 7 เอดูอาร์โด้ผู้รักษาประตูของโปรตุเกสต้องออกแรงเซฟอีกครั้ง จากจังหวะที่ดาวิด บีญ่าเลี้ยงจี้ใส่กองหลังโปรตุเกส ก่อนที่จะกระชากซัดที่เสาแรก แต่ติดเซฟของทางเอดูอาร์โด้

ราชันอัดกัน เอง
3 นาทีต่อมา เป็นไปตามการให้ข่าวของแซร์คิโอ รามอสจริง ๆ ที่ว่าไม่มีคำว่าเพื่อนในสนามแข่ง เพราะเจ้าตัวโดนเปเป้สอยร่วงจากจังหวะที่สเปนกำลังจะโต้กลับใส่โปรตุเกส

ตอร์เรสตวัดลูกสูตร
นาทีที่ 12 เฟร์นานโด ตอร์เรสได้ลุ้นประตูอีกครั้ง จากจังหวะที่ชาบี้ เฮร์นานเดซเปิดเตะมุมสั้นให้ตอร์เรสวิ่งมาตวัดยิงในกรอบเขตโทษ บอลลอยโค้งผ่านออกหลังไปแค่นิดเดียวเท่านั้น

เอดูอาร์โด้ฉุนกึกบ่นเพื่อนไม่หยุดปาก เพราะยังไม่ผ่าน 15 นาทีแรก แต่โดนส่องแบบเสียวไปหลายครั้งแล้ว

ทิอาโก้ซัด ไกล-คาซิญาสเซฟสวย
นาทีที่ 20 โปรตุเกสได้ลุ้นประตูจากจังหวะที่ทิอาโก้ได้โอกาสยืนกางมุ้งส่องไกลนอกกรอบ เขตโทษ แม้บอลจะไม่หนีตัวคาซิญาส แต่ก็พุ่งแรง ทำให้ต้องปัดเอาไว้ในจังหวะแรก แต่บอลไม่พ้นหน้าปากประตู และเหมือนจะโค้งเข้าประตูอีกด้วย คาซิญารีบวิ่งไปปัดเอาไว้ได้ก่อนแค่อึดใจเดียว ก่อนที่อัลเมด้าจะพุ่งเข้าไปตามซ้ำดาบสอง หวาดเสียวดีแท้

ฟรีคิกโด้ จิ๋วเกือบทำพิษ
นาทีที่ 28 ลูกยิงฟรีคิกระยะไกลโฮกของคริสเตียโน่ โรนัลโด้เกือบจะทำพิษใส่เพื่อนร่วมทีมเรอัล มาดริดอย่างอีเคร์ คาซิญาสแล้ว จากจังหวะที่เขาส่องฟรีคิกไกล บอลพุ่งส่ายอย่างเร็ว ทำให้คาซิญาสไม่สามารถรับไว้ได้ และต้องกระแทกบอลออกมา ยังดีที่บอลไม่ไปเข้าทางผู้เล่นโปรตุเกสที่วิ่งตามจะเข้ามาซ้ำ

กระทิงเจาะ ยังไงก็ไม่เข้า
เข้าสู่ช่วงนาทีที่ 35 สเปนที่เกมนี้ได้ครองบอลมากกว่าโปรตุเกสค่อนข้างมาก แต่ก็ยังหาวิธีเจาะเข้าไปลุ้นประตูแบบจะแจ้งไม่ได้เสียที จนต้องมีลองส่องไกลดูบ้าง แต่ก็ยังคงไม่ได้ผลเหมือนเดิม

อัลเมด้า โหม่งโดนบางเกิน
4 นาทีต่อมา โปรตุเกสน่าจะได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่เมเลเรสเปิดบอลจากฝั่งซ้ายเข้าไปในกรอบเขตโทษ อัลเมด้าได้เืทคตัวขึ้นโขกบอลเหน่ง ๆ แต่เหมือนจะโดนบางไปนิด ทำให้ทิศทางไม่พุ่งไปที่ประตู แต่ออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย

ซิเมาเกือบ ได้เดี่ยว
นาทีที่ 42 เกมสวนกลับของโปรตุเกสเกือบจะเล่นงานสเปนซะแล้ว จากจังหวะที่ซิเมาวิ่งฉีกกับดักล้ำหน้าไปรับบอลในจังหวะที่กองหลังของสเปนลง กันไม่ทัน แต่ยังดีที่คาซิญาสอ่านขาด พุ่งออกไปเตะทิ้งทัน

จบ 45 นาทีแรก สเปนยังคงไม่สามารถหาช่องเจาะเข้าไปทำประตูของโปรตุเกสได้ ทำให้ทั้งสองทีมเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง

กระทิงบุก เพลินเกือบโดน
นาทีที่ 53 สเปนที่ครองเกมบุกอย่างเมามันในช่วงครึ่งหลัง เกือบจะโดนสวนแล้วเศร้า จากจังหวะที่อัลเมด้าวิ่งหลุดขึ้นไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้าย ก่อนที่จะล็อกบอลให้เข้าขวา แล้วเปิดเข้ากลาง แต่บอลไปโดนขาของปูโยล เกือบจะเข้าประตู แต่หลุดออกหลุดไปนิดเดียวเท่าั้นั้น

เปลี่ยนตัว ทั้งสองทีม
นาทีที่ 58 สเปนเปลี่ยนเอาเฟร์นานโด ตอร์เรสที่วันนี้แผลงฤทธิ์ไม่ออก ออกจากสนามไป โดยเอาเฟร์นานโด ญอเรนเต้ลงสนามแทน ส่วนทางโปรตุเกสเปลี่ยนเอาราอูล อัลเมด้าออกแล้วส่งตัวจี๊ดอย่างแดนนี่ลงไปเล่นแทน

เอดูอาร์โด้ซูเปอร์เซฟ
3 นาทีต่อมา ญอเรนเต้ที่เพิ่งจะลงไปได้ไม่กี่นาที ก็เกือบจะพังประตูเบิกร่องได้ จากจังหวะเปิดจากริมเส้นฝั่งขวาของรามอส ให้กับญอเรนเต้ได้พุ่งโหม่งจ่อ ๆ แต่เอดูอาร์โด้ยังเซฟเอาไว้ได้แบบเฉียดฉิว

ก่อนที่บีญ่าจะได้โอกาสลุ้นอีกครั้ง จากการเลี้ยงตัดจากฝั่งซ้ายไปปั่นบอลโค้งไปเสาสอง ผ่านมือเอดูอาร์โด้ไปแล้ว แต่หลุดเสาออกไปนิดเดียวเท่านั้น

บีญ่าเอาจน ได้!!!
นาทีที่ 63 หลังจากพยายามอยู่หลายครั้ง ในที่สุดดาวิด บีญ่าก็มาทำประตูขึ้นนำให้แก่สเปนจนได้ จากจังหวะที่สเปนต่อบอลหาช่องกัน เริ่มจากอิเนสต้าจ่ายให้ชาบี้ในเขตโทษ ก่อนที่ชาบี้จะตอกส้นจังหวะแรกไหลให้บีญ่าวิ่งมาซัดติดเซฟของเอดูอาร์โด้ แต่บีญ่ายังลุกเร็วตามไปซ้ำดาบสองบอลพุ่งกระทบคานบอลเข้าไปตุงตาข่าย สเปนออกนำไปแล้ว 1-0

รามอสเกือบ บวกเม็ดสอง
นาทีที่ 70 สเปนสวนกลับได้อย่างสวยงาม ก่อนที่อิเนสต้าจะไหลบอลไปให้กับรามอสที่เติมขึ้นมา ล็อกหลบกองหลังของโปรตุเกสในจังหวะแรกในกรอบเขตโทษ ก่อนที่จะซัดด้วยซ้ายทันที แต่เอดูอาร์โด้พุ่งตัวปัดออกหลังไปได้ทัน

ฝอยทอง เปลี่ยน 2 ตัว
2 นาทีต่อมา โปรตุเกสไม่มีทางเลือกต้องปรับแทคติกด้วยการส่งเลียดสันลงมาเล่นแทนซิเมา และเปโดร เมนเดสลงเล่นแทนเปเป้ ใช้โควต้าตัวสำรองครบ 3 คนแล้ว

ชาบี้โดนใบ เหลืองแรก
นาทีที่ 74 ชาบี้ อลอนโ่ซ่โดนใบเหลืองหลังจากไปทำฟาวล์ใส่ผู้เล่นโปรตุเกส แต่ที่ไม่น่าเชื่อคือ นี่เป็นใบเหลืองแรกของนักเตะสเปน นับตั้งแต่ลงเล่นฟุตบอลโลก 2010 มา

กระทิงเน้น ครองบอล
เข้าสู่ช่วง 10 นาทีสุดท้าย สเปนเน้นการต่อบอล และครองบอลกันให้ชัวร์ เพื่อดึงและล่อให้โปรตุเกสวิ่งเข้าไล่แย่งบอล ยิ่งเวลาเหลือน้อยเท่าไร แข้งโปรตุเกสก็ยิ่งกดดันมากขึ้นเท่านั้น

จบ ข่าว!ฝอยทองโดนแดง
นาทีที่ 89 โปรตุเกสน่าจะต้องแพ็คกระเป๋ากลับบ้านแล้ว เพราะริคาร์โด้ คอสต้าไปโดนใบแดงไล่ออก จากจังหวะที่มือเขาไปปัดโดนหน้าของคัปเดบีล่า แม้จะดูไม่ชัดเจนเท่าไร แต่ผู้ตัดสินก็ควักใบแดงไล่คอสต้าออกจากสนามไป

จบ 90 นาที สเปนเบียดเอาชนะโปรตุเกสไปได้ 1-0 จากประตูชัยของดาวิด บีญ่าที่ยิงไปแล้ว 4 ประตูในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ผ่านเข้าไปชนกับปารากวัยในรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ

รายชื่อนัก เตะทั้งสองทีม

สเปน :
อีเคร์ คาซิญาส 5.5,คาร์เลส ปูโยล 6,เคราร์ด ปิเก้ 6,โจน คัปเดบีล่า 5,แซร์คิโอ รามอส 7.5,เซอร์จิโอ้ บุสเกตส์ 6,ชาบี้ อลอนโซ่ 6 (มาร์เชน่า - น.90+3),ชาบี้ 6.5,ดาวิด บีญ่า 8.5*(เปโดร - น.88),เฟร์นานโด ตอร์เรส 5(ญอเรนเต้ 7 น.59),อังเดรส อิเนสต้า 8

โปรตุเกส : เอ ดูอาร์โด้ 8,บรูโน่ อัลเวส 6,ริคาร์โด อัลเวส 6,ฟาบิโอ โคเอนเตรา 6.5,ริคาร์โด้ คอสต้า 5,เปเป้ 6(เมนเดส 5 น.72),ราอูล เมเรเลส 6,ทิอาโก้ 6,ซิเมา 5(เลียดสัน 5 น.72),ฮูโก้ อัลเมด้า 7(แดนนี่ 5 น.59),คริสเตียโน่ โรนัลโด้ 5